การประสานประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศ
ความหมายและความสำคัญการประสานประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศ
การประสานประโยชน์
การประสานประโยชน์
หมายถึง การร่วมมือกันเพื่อรักษาและป้องกันผลประโยชน์ของตน
หรือระงับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันทางการเมือง เศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ผลดีของความร่วมมือระหว่างประเทศ
ก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศก่อให้เกิดสันติภาพและความเป็นธรรม
เกิดการช่วยเหลือ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า
การแลกเปลี่ยนวัตถุดิบ เงินลงทุน เทคโนโลยีต่าง ๆ มากขึ้น
ผลเสียของการร่วมมือระหว่างประเทศ
อาจก่อให้เกิดการกีดกัน
นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มได้
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ความหมาย
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
หมายถึง การแลกเปลี่ยนและปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นข้ามเขตพรมแดนของรัฐ
ซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยรัฐหรือตัวแสดงอื่น ๆ ที่ไม่ใช่รัฐ
ซึ่งส่งผลถึงความร่วมมือหรือความขัดแย้งระหว่างประเทศต่าง ๆ ในโลก
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
กลุ่มบุคคล หรือสังคม ซึ่งเกิดขึ้นข้ามขอบเขตของกลุ่มสังคมการเมืองหนึ่ง ๆ
ในกรณีความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยด้วยกัน หรือกลุ่มคนไทยด้วยกันในประเทศไทย
ไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยกับคนลาวถือว่าเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือ
และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขในสังคมโลก
การแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกัน
การแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกัน
ไทย – สาธารณรัฐฝรั่งเศส
1.
ประธานาธิบดี ฌาคส์ ชีรัค
1.1
นายกรัฐมนตรีไทยเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม
พ.ศ. 2546 และครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 9 -11 ตุลาคม พ.ศ. 2548
1.2
ประธานาธิบดีพบหารือกับายกรัฐมนตรีรวม 4 ครั้ง คือ ครั้งแรก เมื่อวันที่ 12
พฤษภาคม พ.ศ. 2546 ในระหว่างการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 2
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2547 เป็นการหารือนอกรอบการประชุม ASEM ครั้งที่ 5
ที่กรุงฮานอย ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2548
ในระหว่างการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ และล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2549 ในระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ (State Visit) ของ
ประธานาธิบดีชีรัค ซึ่ง Highlights ได้แก่
(1)
การติดตามผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการร่วมไทย-ฝรั่งเศส (Joint Plan of
Action)อาทิ การค้า การลงทุน ความร่วมมือไตรภาคี
ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การท่องเที่ยว การศึกษาและวัฒนธรรม
(2)
ชักชวนฝรั่งเศสมาลงทุนในโครงการ Mega-Projects ของไทย
ซึ่งฝรั่งเศสให้ความสนใจโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติและระบบขนส่งมวลชน
(3)
การลงนามในความตกลงและเอกสารต่างๆ จำนวน 12 ฉบับ แบ่งเป็น ความตกลงภาครัฐ 7 ฉบับ
และภาคเอกชน 5 ฉบับ
1.3
ประธานาธิบดีจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส สมัยที่ 2 ในปี 2550
และมีการคาดคะเนว่า ประธานาธิบดีจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งปธน.สมัยที่ 3
เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ และอาจสนับสนุนให้ นายกรัฐมนตรี Dominique de
Villepin ซึ่งถือเป็นทายาททางการเมืองลงสมัครแทนเพื่อแข่งขันกับนาย Nicolas
Sarkozy รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
แต่จากเหตุการณ์ประท้วงร่างกม.แรงงาน CPE (ซึ่งอนุญาตให้นายจ้างสามารถปลดลูกจ้างอายุต่ำกว่า
26 ปีได้ในช่วง 2 ปีแรกของการทำงาน
โดยให้ถือเป็นช่วงทดลองงานและไม่ต้องมีการอธิบายหรือแจ้งล่วงหน้าดังเช่นกฎหมายแรงงานทั่วไป)
ตามข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี de Villepin ได้ส่งผลให้คะแนนนิยมในตัว นายกรัฐมนตรี
ลดลงอย่างมากและอาจทำให้
ประธานาธิบดีไม่มั่นใจว่าสมควรที่จะให้การสนับสนุนต่อไปหรือไม่
2.
ความสัมพันธ์ไทย – ฝรั่งเศสโดยรวม
2.1 แผนปฏิบัติการร่วมไทย-ฝรั่งเศส
(Joint Plan of Action)
(1) ฝรั่งเศสได้หันมามองไทยด้วยสายตาใหม่
โดยการยกระดับสถานะและให้ความสำคัญแก่ไทยมากขึ้นในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของฝรั่งเศสต่อ
ASEAN ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากผลสำเร็จของการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการของ
นายกรัฐมนตรีระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค.46 อันนำไปสู่การจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมไทย-ฝรั่งเศส
ซึ่งเป็นแผน 5 ปี (2547-2551) และลงนามโดย รมว.กต.ของทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 25
พ.ค.47
(2)
แผนปฏิบัติการฯ ครอบคลุมความร่วมมือในสาขาต่างๆ ทุกสาขา อาทิ ด้านการทหาร เศรษฐกิจ
การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษาและการต่างประเทศ โดยในปัจจุบัน
มีประเด็นที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 70
2.4 เทศกาลวัฒนธรรม ฝรั่งเศสได้จัดเทศกาลวัฒนธรรมฝรั่งเศสในไทย
ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 3 มิ.ย. -14 ก.ค.47 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 6-24
มิ.ย.48 และกำหนดจะจัดครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 21 มิ.ย.- 8 ก.ค.49
ส่วนไทยกำหนดจะจัดเทศกาลวัฒนธรรมไทยในฝรั่งเศส ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 15
ก.ย.-31 ต.ค.49 ที่กรุงปารีสและเมืองลียง
โดยได้ขอให้งานดังกล่าวอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของ ประธานาธิบดีชีรัค ซึ่งขณะนี้
ยังรอผลการพิจารณาของฝ่ายฝรั่งเศส
2.5 ความร่วมมือด้านแฟชั่น (1) มีการลงนามใน
MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านแฟชั่นไทย-ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2549
(2)
ไทยกำลังพิจารณาจัดตั้ง Thailand Fashion House ที่กรุงปารีส
2.6 ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการขยายมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันเป็น
2 เท่าภายใน 3 ปี (ปี 2551) โดยได้ตกลงกันให้มีการจัดตั้งคณะทำงานสำหรับยกร่าง Roadmap
ของแผนปฏิบัติการด้านเศรษฐกิจและการค้า
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว (มีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.49)
และให้มีการเพิ่มจำนวนวิสาหกิจฝรั่งเศส ในไทยจากจำนวน 350 บริษัท เป็นจำนวน 750
บริษัท ภายในระยะเวลา 3 ปี
2.7 ตัวเลขการค้า
2548 รวม 3,166.6 ล้าน USD ไทยขาดดุล 563.4 ล้าน USD
2.8 ฝรั่งเศสลงทุนในไทย
2548 14 โครงการ มูลค่ารวม 410 ล้านบาท
2.9
ความร่วมมือไตรภาคี มีการลงนามในข้อตกลงจัดตั้งสำนักงานองค์กรเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลฝรั่งเศส
(Agence Française de Développement- AFD) ในไทย เมื่อวันที่ 18 ก.พ.49
โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะให้มีความร่วมมือในลาวและมาดากัสการ์ก่อนเป็นอันดับแรก
2.10 UNSG ฝรั่งเศสรับที่จะพิจารณาผู้สมัครของไทยอย่างจริงจัง
(seriously consider)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น