วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558

สังคม

โครงสร้างสังคม



          โครงสร้างสังคม หมายถึง ระบบของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เชื่อมโยงให้เกิดกลุ่มสังคมที่มีรูปแบบต่าง กันตามระบบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่จะทำให้สังคมเป็นระเบียบ

ลักษณะสำคัญของโครงสร้างสังคมมนุษย์

1. มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่มีการติดต่อสัมพันธ์กัน
2. การติดต่อสัมพันธ์กันเป็นไปอย่างมีระเบียบกฎเกณฑ์
3. มีวัตถุประสงค์ในการติดต่อสัมพันธ์กัน
4. มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

โครงสร้างสังคมประกอบด้วย

1. กลุ่มสังคม
2. สถาบันทางสังคม
3. สถานภาพและบทบาทในสังคม
4. บรรทัดฐานทางสังคม

ประเภทของกลุ่มคน

กลุ่มปฐมภูมิ คือ กลุ่มคนที่มีความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดสนิทสนมเป็นส่วนตัว มีสมาชิกน้อย ไม่มีพิธีรีตรอง เช่น ครอบครัว
กลุ่มทุติยภูมิ คือ กลุ่มคนที่มีความสัมพันธ์เป็นแบบทางการเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่วางไว้ มีสมาชิกกลุ่มจำนวน มาก เช่น สังคมเมือง โรงเรียน เป็นต้น
สถาบันสังคม

สถาบันสังคม หมายถึง กระบวนการที่มนุษย์ได้จัดตั้งขึ้นอย่างมีระเบียบแบบแผน ทำหน้าที่สนองความ ต้องการที่จำเป็น

องค์ประกอบของสถาบันทางสังคม

ตำแหน่งทางสังคม หมายถึง ตำแหน่งของบุคคลในสถาบันหนึ่ง ๆ เช่น พ่อ แม่ พ่อค้า เป็นต้น
หน้าที่ หมายถึง ภาระผูกพันที่สถาบันจะต้องกระทำการบางอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการที่จำเป็นของสังคม
แบบแผนการปฏิบัติ หมายถึง แบบแผนในการคิดและการกระทำของสมาชิกในสังคม แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
ได้แก่

1. บรรทัดฐานทางสังคม เช่น กฎ ระเบียบ
2. ค่านิยม คือ สิ่งที่มีค่าควรแก่การกระทำ
3. ความเชื่อ คือ แบบของความคิดเกี่ยวกับตัวเราที่เกิดขึ้นมีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
4. สัญลักษณ์ คือ การกระทำหรือตัวแทนที่เป็นสื่อทำให้เกิดความเข้าใจ

ประเภทของสถาบันสังคม

1. สถาบันครอบครัว

หมายถึง กลุ่มคนตั้งแต่ 2 คนหรือมากกว่านั้น ซึ่งเกี่ยวข้องกันทางสายโลหิต

หน้าที่ของสถาบันครอบครัว
1. ผลิตสมาชิกใหม่ให้แก่สังคม
2. เลี้ยงดูสมาชิกให้เจริญเติบโตทั้งทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม
3. อบรมสั่งสอนศีลธรรมจรรยาเพื่อดำรงอยู่ในสังคมได้
4. ให้ความรัก ความอบอุ่น สนองความต้องการทางจิตใจ

2. สถาบันการศึกษา

เป็นสถาบันที่ถ่ายทอดความรู้ ความคิดให้แก่สมาชิกในสังคม เพื่อให้เกิดความรู้ ความสามารถ สามารถทำ ประโยชน์ให้กับสังคมนั้นได้ หน้าที่ของสถาบันการศึกษา

1. ถ่ายทอดความรู้ ระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคมให้กับเยาวชนของสังคม
2. ผลิตแรงงานที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพให้สังคม
3. สร้างบุคลิกภาพทางสังคมให้แก่สมาชิก
4. ส่งเสริมให้รู้จักพัฒนาตนเองและสังคมนั้น

3. สถาบันศาสนา

เป็นสถาบันที่กำหนดแนวทางความประพฤติของคนในสังคม

หน้าที่ของสถาบันทางศาสนา

1. ช่วยควบคุมความประพฤติของคนในสังคม
2. ช่วยสร้างความมั่นคงทางจิตใจให้สมาชิกในสังคม
3. ช่วยควบคุมสังคมให้สงบสุข
4. สร้างความผูกพันระหว่างคนในชาติ
5. ช่วยอบรมศีลธรรมจริยธรรมให้แก่สมาชิก

4. สถาบันการปกครอง

หมายถึง สถาบันที่ทำหน้าที่ดูแลบริหารบ้านเมืองทางด้านความมั่นคง ความปลอดภัยและความสงบสุขของ สังคม

หน้าที่ของสถาบันการปกครอง

1. สร้างกฎระเบียบต่าง ๆ ในสังคม
2. แก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม
3. บริการและสวัสดิการต่าง ๆ ให้สมาชิกในสังคม

5. สถาบันเศรษฐกิจ

เป็นสถาบันที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต การบริโภคและการบริการสินค้า เพื่อให้สมาชิกสามารถดำรง ชีพอยู่ได้

หน้าที่ของสถาบันเศรษฐกิจ

1. กระจายสินค้าและบริการไปสู่สมาชิกในสังคม
2. สร้างอาชีพและรายได้ให้ประชาชน
3. ผลิตสินค้าและบริการรวมทั้งเครื่องอุปโภคและบริโภคต่าง ๆ
4. สร้างมาตรฐานการครองชีพและพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญก้าวหน้า

6. สถาบันนันทนาการ

เป็นสถาบันที่เกี่ยวกับการพักผ่อนหย่อนใจในชีวิตประจำวัน เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด

หน้าที่ของสถาบันนันทนาการ

1. ช่วยให้สมาชิกมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้น
2. เสริมสร้างความสามัคคี
3. ปลูกฝังความมีระเบียบวินัยแก่สมาชิก
4. สร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
5. ฝึกทักษะความชำนาญในด้านต่าง ๆ

7. สถาบันสื่อสารมวลชน

เป็นสถาบันที่ให้ความรู้ ความคิด ข่าวสาร ข้อมูล แก่ประชาชน

หน้าที่ของสถาบันสื่อสารมวลชน

1. ให้ความรู้ และความบันเทิงแก่สมาชิก
2. ให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนคติ ความคิดเห็น
3. เป็นแหล่งถ่ายทอดวัฒนธรรมและปลูกฝังค่านิยมต่าง ๆ
4. เป็นสื่อกลางในการติดต่อระหว่างสมาชิกของสังคม



การจัดระเบียบทางสังคม




            การจัดระเบียบทางสังคม หมายถึง กระบวนการทางสังคมที่จัดขึ้นเพื่อควบคุมสมาชิกให้มีความสัมพันธ์กันภายใต้แบบแผนและกฎเกณฑ์เดียวกัน เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม

สาเหตุที่ต้องจัดระเบียบทางสังคม

1. เพื่อให้การติดต่อสัมพันธ์กันทางสังคมเป็นไปอย่างเรียบร้อย
2. เพื่อป้องกันความขัดแย้งระหว่างสมาชิกในสังคม
3. ช่วยให้สังคมดำรงอยู่อย่างสงบสุขและมั่นคงในสังคม

องค์ประกอบของการจัดระเบียบทางสังคม

1. บรรทัดฐานของสังคม
2. สถานภาพ
3. บทบาท
4. การควบคุมทางสังคม

กระบวนการจัดระเบียบทางสังคม ประกอบด้วย 3 ประเภท คือ

1. บรรทัดฐานทางสังคม

บรรทัดฐาน หมายถึง มาตรฐานที่คนส่วนใหญ่ในกลุ่มยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ได้แก่ กฎ ระเบียบ แบบแผนความประพฤติต่าง ๆ

ประเภทของบรรทัดฐานทางสังคม

วิถีประชา หรือวิถีชาวบ้าน หมายถึง แนวทางการปฏิบัติของบุคคลในสังคมที่ยอมรับและปฏิบัติตามความเคยชิน
กฎศีลธรรม หรือจารีต หมายถึง ระเบียบแบบแผนที่สมาชิกในสังคมปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะมีความสำคัญมากกว่าวิถีประชา หากฝ่าฝืนจะถูกสังคมประณามและลงโทษ และมีเรื่องของศีลธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
กฎหมาย หมายถึง กฎเกณฑ์หรือข้อบังคับที่เป็นลายลักษณ์อักษร ใช้ควบคุมความประพฤติของคนในสังคม ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมที่กำหนดไว้
2. สถานภาพ

สถานภาพ หมายถึง ตำแหน่งของบุคคลที่สังคมกำหนดขึ้นหรือตำแหน่งที่ได้รับจากการเป็นสมาชิกของ สังคม และบุคคลเดียวอาจมีหลายสถานภาพได้

ลักษณะของสถานภาพ

1. เป็นสิ่งเฉพาะบุคคลที่ทำให้แตกต่างไปจากผู้อื่น เช่น อารีย์เป็นนักเรียน สมชาติเป็นตำรวจ เป็นต้น
2. บุคคลหนึ่งอาจมีหลายสถานภาพ เช่น สมชาติเป็นตำรวจ เป็นพ่อและเป็นข้าราชการ
3. เป็นสิทธิและหน้าที่ทั้งหมดที่บุคคลมีอยู่ในการติดต่อกับผู้อื่นและสังคมส่วนรวม
4. เป็นตัวกำหนดว่าบุคคลนั้นมีหน้าที่และความรับผิดชอบอย่างไรในสังคม

สถานภาพ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

สถานภาพที่ติดตัวมาโดยสังคมเป็นผู้กำหนด เช่น เพศ อายุ เชื้อชาติ เครือญาติ
สถานภาพที่ได้มาโดยความสามารถ ได้แก่ การประกอบอาชีพ การศึกษา การสมรส เช่น บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย
3. บทบาท

บทบาท หมายถึง การปฏิบัติตามหน้าที่และการแสดงพฤติกรรมตามสถานภาพ สถานภาพและบทบาทเป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์กัน สถานภาพเป็นตัวกำหนดบุคคลให้รู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ บทบาทเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมและคาดหมายให้บุคคลกระทำ การที่บุคคลมีหลายสถานภาพอาจเกิดบทบาทที่ขัดกัน (Roles conflicts) หมายถึง การที่คนคนหนึ่งมีบทบาทหลายอย่างในเวลาเดียวกันและขัดกันเองทำให้ยากต่อการปฏิบัติตามบทบาทใดบทบาทหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น